Home
ปัจจัยที่ทำให้กล้วยไม้เจริญเติบโต
กล้วยไม้สกุลกุหลาบ (Aerides)
กล้วยไม้สุกลแมงปอ (Arachnis)
กล้วยไม้สกุลเข็ม (Ascocentrum)
กล้วยไม้สกุลสิงโต (Bulbophyllum)
กล้วยไม้สกุลแคทลียา (Catteya)
กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium)
กล้วยไม้สกุลรองเท้านารี (Paphiopedilum)
กล้วยไม้สกุลช้าง (Rhynchostylis)
กล้วยไม้สกุลแวนด้า (Vanda)
กล้วยไม้สุกลฟาแลนนอปซิส (Phalaenopsis)
วิธีการให้ปุ๋ย
การเลือกภาชนะในกการปลูกกล้วยไม้
Contact
กล้วยไม้สกุลกุหลาบ (Aerides)
สกุลกุหลาบ (Aerides)
     
Aerides multiflora

กล้วยไม้สกุลกุหลาบหรือเอื้องกุหลาบ เป็นกล้วยไม้ประเภทแวนด้าสกุลหนึ่ง มีปล้องสั้น ข้อถี่ ถ้าต้นยาวหรือสูงมากๆ จะห้อยย้อยลง แต่ส่วนปลายยอดจะงอนตั้งขึ้น ลักษณะใบจะแบน ช่อดอกมีทั้งช่อตั้ง ช่อโค้ง และช่อห้อย บางชนิดช่อดอกแตกแขนงได้ด้วย กลีบดอกชั้นนอกคู่ล่างมักจะมีขนาดใหญ่กว่ากลีบอื่นๆ และกลีบคู่นี้จะเชื่อมติดกับฐานเส้าเกสร ปากมีบานพับ ส่วนใหญ่มีเดือยยาว และมักจะงอนยื่นออกมาทางด้านหน้า มีบางชนิดที่เดือยสั้น เส้าเกสรสั้นแต่ฐานของเส้าเกสรใหญ่ มีเรณู 2 ก้อน ดอกมักมีกลิ่น
 กล้วยไม้สกุลกุหลาบพบในป่าธรรมชาติประมาณ 40 ชนิด กระจายพันธุ์อยู่ในประเทศอินเดีย พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น
 

 

พวกเอื้องกุหลาบที่นิยมปลูกเลี้ยงกันทั่วไป เป็นกล้วยไม้ที่มีลักษณะและสีสันสวยงาม ปลูกเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตได้ดี สามารถขยายพันธุ์หรือผสมกับกล้วยไม้ในสกุลกุหลาบหรือสกุลอื่นๆ ได้ ตัวอย่างกล้วยไม้ในสกุลกุหลาบที่พบในประเทศไทย เช่น
 
  Aerides multiflora

1. มาลัยแดง (Aerides multiflora) เป็นเอื้องกุหลาบใบแบนแต่มีร่องใบลึก ผิวใบมันเล็กน้อย ใบหนา ดอกในช่อแน่น ช่อดอกเป็นพวงโค้งห้อยลง เวลาแทงช่อดอก ก้านช่อมักจะสอดอยู่ในร่องของใบ ทำให้ขาดความสวยงามเมื่อดอกบาน ดังนั้นเมื่อแทงช่อดอก ต้องงัด ดึงหรือดัดให้ช่อดอกออกมาจากร่องของใบ ปากของกุหลาบมาลัยแดงเป็นรูปหัวใจ กลีบดอกสีม่วงแดง ที่โคนกลีบมีขาวและสีจะเข้มขึ้นจนสุดที่ปลายกลีบ ออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม
Aerides rosea
2. กุหลาบเอราวัณหรือกุหลาบน่าน (Aerides rosea ชื่อพ้อง Aerides fieldingii) ลักษณะดอกคล้ายมาลัยแดงมาก เดือยดอกสั้น ช่อดอกมีก้านส่งแข็ง แต่ส่วนช่อที่ติดดอกจะโค้งห้อยลง กลีบดอกสีขาว มีแต้มสีม่วงแดง ที่ปลายกลีบมีจุดสีม่วงแดงประปราย ปากสีม่วงแดง Aerides rosea ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน ใบจะบางและสั้นกว่ามาลัยแดง แต่ใบไม่มีร่องลึกเหมือนมาลัยแดง
  3. กุหลาบอินทจักร (Aerides flabellata) ลักษณะใบเรียงตัวซ้อนกันค่อนข้างแน่น แผ่นใบหนาและเหนียว ผิวใบแห้ง กุหลาบอินทจักรเป็นเอื้องกุหลาบช่อตั้ง ดอกในช่อโปร่ง มีเดืือยดอกยาวเห็นได้ชัดและโค้งงอนสวยงาม กลีบเลี้ยง และกลีบดอกมีสีเขียวอมเหลืองและมีแต้มสีน้ำตาลอมม่วง ออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม
  Aerides crassifolia
4. กุหลาบแดง (Aerides crassifolia) เป็นกล้วยไม้ที่มีลักษณะสวยงาม มีใบสั้นแบนแต่หนา ช่อดอกเอนหรือโค้งลงยาวใกล้เคียงกับใบ ดอกในช่อโปร่ง สั้น ดอกมีสีม่วงแดง ดอกมีขนาดใหญ่กว่าเอื้องกุหลาบชนิดอื่นๆ ออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม
  5. กุหลาบกระเป๋าเปิด (Aerides falcata) เป็นกุหลาบที่เลี้ยงง่ายที่สุด เมื่อต้นสูงขึ้นจะห้อยหัวลง อาจยาวได้ถึง 1 เมตร และแตกแขนงเป็นกอใหญ่ๆ แผ่นใบค่อนข้างบางแต่เหนียว บิดพลิ้วเล็กน้อย ช่อดอกเป็นพวงห้อยลง พื้นกลีบดอกเป็นสีขาว มีแต้มสีม่วงอมชมพูที่ปลายกลีบ ออกดอกประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เหมาะกับการปลูกติดต้นไม้ เมื่อออกดอกแต่ละต้นจะออกได้หลายช่อ ถ้าปลูกเป็นกอใหญ่ๆ จะสวยงามมาก
 
  Aerides falcata Aerides falcata


6. กุหลาบพวงชมพู (Aerides krabiensis) หรือกุหลาบกระบี่ พบครั้งแรกที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงเกาะต่างๆ ทางภาคใต้ของไทย ต้นค่อนข้างผอมมักแตกเป็นกอ แผ่นใบเล็กค่อนข้างหนาและเรียงซ้อนกันถี่ ผิวใบมักจะมีจุดประสีม่วงแดง ช่อดอกตั้งเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ เดือยดอกสั้นมาก ปลายปากกว้างมน ดอกมีพื้นขาว มีจุดประสีม่วงแดง หรือชมพูเข้ม กลางแผ่นปากมีสีแดงเข้มคล้ายกุหลาบมาลัยแดง ออกดอกระหว่างเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม
7. กุหลาบกระเป๋าปิด (Aerides odorata) ลำต้นตั้งหรือเอนย้อยห้อยลง แผ่นใบค่อนข้างหนาและเหนียว เรียงตัวซ้อนกันถี่ๆ ผิวใบแห้ง ช่อดอกยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ช่อดอกห้อยลง กลีบดอกเป็นสีขาว ปลายกลีบเป็นสีม่วงอมแดงอ่อนๆ ส่วนปลายปากเป็นสีม่วง เดือยดอกโค้งงอนขึ้นคล้ายเขา ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม Aerides odorata

Aerides odorata
(Photo ref. from Internet)
8. กุหลาบเหลืองโคราช (Aerides houlettiana) ลักษณะใบสั้น แผ่นใบแข็งและหนา แผ่แบน ช่อดอกเป็นพวงห้อยลง ดอกในช่อค่อนข้างแน่น ดอกมีพื้นกลีบสีเหลือง มีแต้มที่ปลายปากเป็นสีม่วงแดง ดอกบานเกือบพร้อมกันทั้งช่อ มีกลิ่นหอมคล้ายกุหลาบกระเป๋าเปิด ปลูกเลี้ยงง่าย ออกดอกประมาณเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม
Aerides houlettiana Aerides houlettiana
(Photo ref. from Internet)
 
     
  ส่วนกุหลาบที่นิยมปลูกเลี้ยงในไทยแต่เป็นพันธุ์จากประเทศฟิลิปปินส์ ได้แก่
- Aerides jarckiana เป็นกุหลาบที่มีดอกสีแดงเข้มเป็นมัน
- Aerides lawrenceae กุหลาบพันธุ์นี้มีดอกขนาดใหญ่ พื้นกลีบดอกสีขาวมีแต้มสีม่วงแดง
- Aerides quinquevulnerum พื้นกลีบดอกสีขาวหรือสีเหลือง มีจุดกระสีม่วงแดง กลีบดอกหนาเป็นมัน
  Aerides jarckiana
Aerides jarckiana
(Photo ref. from Internet)
Aerides jarckiana
Aerides jarckiana
(Photo ref. from Internet)
  Aerides lawrenceae
Aerides lawrenceae
Aerides lawrenceae
Aerides lawrenceae
(Photo ref. from Internet)
Aerides lawrenceae
Aerides lawrenceae
(Photo ref. from Internet)
     
 
ลูกผสมของเอื้องกุหลาบที่น่าสนใจ เช่น
- ลูกนก (Aeridocentrum Luke Nok) ลูกผสมระหว่างอินทจักรกับเข็มแดง
- จำปาทอง (Aeridocentrum Champatong) ลูกผสมระหว่างกุหลาบเหลืองโคราชกับเข็มแสด
- โบกอ (Aeridachnis Bogor) ลูกผสมระหว่างกุหลาบกระเป๋าปิดกับแมลงปอ ฮุกเกอเรียนา
- กุหลาบบางกอก (Aerides Bangkok) ลูกผสมระหว่างกุหลาบกระเป๋าเปิดกับมาลัยแดง
- กุหลาบผุสดี (Aerides Pussadi) ลูกผสมระหว่างกุหลาบกระเป๋าเปิดกับกุหลาบกระเป๋าปิด
     
 
          การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สกุลกุหลาบมีวิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับแวนด้าใบแบน เอื้องกุหลาบทุกชนิดสามารถเลี้ยงให้ออกดอกได้ในภาคกลาง แต่บางชนิดก็เจริญงอกงามสู้ปลูกเลี้ยงในแหล่งกำเนิดไม่ได้ เช่น กุหลาบอินทจักร กุหลาบเอราวัณ เป็นต้น เอื้องกุหลาบส่วนใหญ่จะออกดอกในปลายฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ฉะนั้นเมื่อเข้าฤดูแล้ง อย่าให้น้ำมากนัก จะทำให้เติบโตสมบูรณ์มากจนลืมออกดอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกเลี้ยงในกรุงเทพฯ ซึ่งมีฤดูกาลที่ไม่แน่นอน
 

Today, there have been 4 visitors (5 hits) on this page!
Web by : Rungruthai This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free