สกุลช้าง (Rhynchostylis) |
|
|
|
|
กล้วยไม้สกุลช้างมีลักษณะลำต้นสั้นแข็งแรง ใบแข็งแรง หนาอวบน้ำ บางชนิดใบเล็กยาว ปลายใบหยักมนหรือเป็นฟันแหลม ใบมีลายเป็นเส้นขนานหลายเส้นตามแนวยาวของใบ ช่อดอกตั้งโค้ง หรือห้อยย้อยลงมา ดอกจะออกกันแน่นช่อ กลีบดอกชั้นนอกโตกว่ากลีบชั้นใน ปากไม่มีข้อพับ ปากจะเชื่อมต่อกับฐานเส้าเกสร เดือยดอกชี้ไปข้างหลังแต่ปลายปากชี้ไปข้างหน้า ไม่มีหูหรือมีก็มีขนาดเล็ก เส้าเกสรและ ฐานเส้าเกสรสั้น มีเรณู 2 ก้อน กล้วยไม้ในสกุลช้างมี 4 ชนิด คือ

1. ไอยเรศหรือพวงมาลัย (Rhynchostylis retusa)
2. เขาแกะ (Rhynchostylis coelestis)
3. ช้าง (Rhynchostylis gigantea)
4. ช้างฟิลิปปินส์ (Rhynchostylis violacea)
|
|
|
|
|
|
กล้วยไม้ในสกุล Rhynchostylis ที่พบในประเทศไทย ได้แก่ ไอยเรศ เขาแกะ และช้าง ส่วนช้างฟิลิปปินส์พบในประเทศฟิลิปปินส์
1. ไอยเรศ (Rhynchostylis retusa) เป็นกล้วยไม้ที่พบได้ในทุกๆ ภาคของประเทศไทย ใบมีสีเขียวแก่สลับสีเขียวอ่อนเป็นทางตามความยาวของใบ เห็นได้ชัดที่ผิวใบด้านล่าง ปลายใบเป็นฟันแหลมไม่เท่ากัน ดูคล้ายถูกแมลงกัดปลายใบแหว่ง มีช่อดอกแบบห้อยย้อย ช่อดอกยาวได้ถึง 40 เซนติเมตร มีดอกได้มากถึง 150 ดอก กลีบดอกมีพื้นสีขาว มีจุดสีม่วงหรือม่วงแดงอยู่ประปราย ดอกจะออกประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เนื่องจากเป็นกล้วยไม้ที่ชอบแตกกอ ถ้าเลี้ยงไว้้เป็นกอใหญ่ๆ เมื่อออกดอกเป็นพรูทั้งกอจะสวยงามมาก |
|
|

Rhynchostylis retusa |

Rhynchostylis retusa |
|
|
|
|
|

Rhynchostylis coelestis |
2. เขาแกะหรือเอื้องเขาแกะ (Rhynchostylis coelestis) กระจายพันธุ์ได้กว้างขวางกว่าไอยเรศ พบในป่าโปร่งทั่วๆ ไป มีช่อดอกตั้ง กลมรูปทรงกระบอกพื้นกลีบดอกสีขาว มีแต้มสีม่วงแดง ม่วงครามไปจนถึงสีครามที่ปากและปลายกลีบทุกกลีบ เขาแกะออกดอกประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน แต่บางต้นก็อาจออกดอกนอกฤดูนี้ก็ได้
|

Rhynchostylis coelestis |
|
|
3. ช้าง (Rhynchostylis gigantea) กระจายพันธุ์อยู่ทุกภาคของไทย ยกเว้นภาคใต้ เป็นกล้วยไม้ที่มีลำต้นขนาดใหญ่สมชื่อ ใบหนาและมีลายสีเขียวแก่สลับกับสีเขียวอ่อนเป็นทางขนานกันตามความยาวของใบ เห็นได้ชัดทั้งผิวใบด้านบนและด้านล่าง ปลายใบหยักมนเป็น 2 แฉก ช่อดอกโค้งไม่ถึงกับห้อยย้อย โดยทั่วไปดอกจะมีพื้นสีขาว มีจุดกระสีม่วงแดง ชัดเจนต่างกันจึงแบ่งกล้วยไม้สกุลช้างเป็นช้างเผือก ช้างกระ และช้างแดง ซึ่งมีลักษณะทั่วไปดังนี้
- ช้างเผือก มีกลีบดอกสีขาวบริสุทธิ์ อาจมีสีเขียวหรือสีเหลืองอ่อนที่ปาก
- ช้างกระ กลีบดอกมีพื้นสีขาว มีจุดกระสีม่วงแดงเป็นเม็ดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ที่กลีบดอกทุกกลีบ บางต้นอาจมีเพียง 2-3 จุดหรือมีมากมายเต็มกลีบดอกก็ได้ ปากมีสีม่วงแดง มีทั้งสีอ่อนและสีเข้ม
- ช้างแดง กลีบดอกมีพื้นเป็นสีม่วงแดง อาจมีสีขาวหลงเหลืออยู่บ้างที่โคนกลีบดอก แต่ถ้าไม่มีสีขาวปนอยู่เลยจะถือว่าดีมาก |
|
|
|
|

Rhynchostylis gigantea |
|

Rhynchostylis gigantea |
|
|
ช้างจะออกดอกในเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ อันที่จริงแล้วช้างแดงก็คือช้างกระนั่นเอง หมายความว่าจุดสีม่วงแดงถ้ามีจำนวนมากและขนาดใหญ่จึงดูเชื่อมติดกันจนไม่เห็นสีขาวเลย เช่นเดียวกันกับช้างเผือกที่ไม่มีจุดสีม่วงแดงเลยจึงเห็นแต่พื้นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นในธรรมชาติช้างแดงและช้างเผือกจึงหายากมาก แต่จะมีช้างกระกระจายพันธุ์อยู่มากที่สุด ในกลุ่มของช้างกระด้วยกันก็จะมีลักษณะที่เรียกว่า ปลาด คือถ้ามีจุดกระเล็กน้อยเกือบเป็นช้างเผือกหรือมีจุดกระมากมายเป็นปื้นโตๆ เกือบเป็นช้างแดง บางคนก็เรียกช้างเผือกกระ หรือช้างแดงกระ แล้วแต่ว่าจะดูไปทางช้างเผือกหรือช้างแดง
ในอดีตช้างแดงและช้างเผือกเป็นของป่าที่หายาก ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ได้ประสบความสำเร็จในการผสมพันธุ์ช้างแดง โดยเริ่มทำการผสมเมื่อ พ.ศ. 2501 และช้างแดงชุดแรกออกดอกเมื่อ พ.ศ. 2505 ฉะนั้นจึงเป็นที่ยกย่องและยอมรับกันทั่วโลกว่า
ศาสตราจารย์ระพี สาคริก เป็นราชาช้างแดง ปัจจุบันนี้ช้างแดงและช้างเผือกสามารถเพาะขึ้นได้เองจึงไม่ใช่ของที่หายากอีกต่อไปแล้ว นักเพาะพันธุ์กล้วยไม้สามารถเพาะขยายพันธุ์และผสมได้เป็นช้างที่มีสี ลวดลาย และช่อดอกสวยงามแปลกตาขึ้นมากมาย เช่น ช้างพลาย ช้างการ์ตูน ช้างส้ม เป็นต้น

ทางภาคเหนือของไทย มีช้างพันธุ์หนึ่งที่มีลักษณะผิดแปลกไปจากทั่วๆไป คือ มีใบหนาและสั้นกว่า ใบมีสีเขียวเข้มกว่าช้างทั่วๆไป ช่อดอกมักจะสั้นกว่าด้วย ลักษณะและสีของดอกเหมือนช้างกระ เรียกว่า ช้างค่อม ในทางพฤกษศาสตร์ตั้งชื่อพันธุ์ที่มีลักษณะต่างไปจากเดิมนี้ว่า อิลัสเตอร์ (Rhynchostylis gigantea var. illustre) |
|
|

Rhynchostylis violacea
(Photo ref. from Internet) |
|
4. ช้างฟิลิปปินส์ (Rhynchostylis violacea) ไม่มีถิ่นกำเนิดในไทย เป็นกล้วยไม้ที่มีรูปทรงของต้นและใบคล้ายกับช้างไทย ช่อดอกโค้งแบบช้าง ความแตกต่างอยู่ที่ช้างของไทยที่ปากจะมีสัน (keel) เพียง 2 สัน แต่ช้างฟิลิปปินส์มี 5 สัน |
|
|
|
|
การดูลักษณะกล้วยไม้สกุลช้าง
กล้วยไม้สกุลช้างจัดว่าเป็นกล้วยไม้ที่มีช่อดอกสวยงาม ความสวยงามของช่อดอกอยู่ที่การจัดระเบียบของดอกในช่อ คือมีการเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ มีระยะถี่ห่างเท่ากันและเบียดชิดกัน จะมองดูคล้ายช่อดอกบิดเป็นเกลียว ลักษณะการจัดระเบียบในช่อ ไอยเรศจัดได้ว่าสวยที่สุดเพราะจำนวนดอกมีมากและเบียดชิดกัน ส่วนเขาแกะบางต้นจะพบลักษณะเสียอยู่อย่างหนึ่งคือดอกมักจะงุ้มลง ไม่ผึ่งผายหรือที่เรียกว่า หน้าคว่ำ หรือ หน้าไม่รับแขก และลักษณะเสียนี้มักถ่ายทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานได้ด้วย เช่นเดียวกันกับช้างก็มีลักษณะไม่ดีเหมือนกันคือ ดอกห่าง การจัดระเบียบของดอกเสีย ดูไม่เป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ดอกติดไม่รอบช่อคือ ด้านล่างของช่อจะไม่มีดอกอยู่เลยแทนที่จะเป็นรูปทรงกระบอกกลมก็กลายเป็นทรงกระบอกผ่าซีก ลักษณะช่อดอกแบบนี้เรียกว่า ท้องปลิง |
|
|
ลูกผสมของกล้วยไม้สกุลช้าง (Rhynchostylis) กล้วยไม้ที่ผสมในสกุลเดียวกัน เช่น ช้างช่อชะลูด (Rhynchostylis Chorchalood) เป็นลูกผสมระหว่างช้างกับไอยเรศ นอกจากนี้ยังสามารถผสมข้ามสกุลได้อีกหลายสกุล เช่น
- ผสมกับสกุลเข็ม (Ascocentrum) ได้กล้วยไม้สกุล Rhynchocentrum เช่น Rhynchocentrum Ladda Gold (Ascocentrum miniatum x Rhynchostylis coelestis)
|
|

Rhynchocentrum Ladda Gold
(Photo ref. from Internet) |

Rhynchocentrum Fuchs Violet
(Photo ref. from Internet) |
|
|

Rhynchovanda Blue Lighting
(Photo ref. from Internet) |

Rhynchovanda Wong Yoke Sim
(Photo ref. from Internet) |
|
|
- ผสมกับสกุลแวนด้า (Vanda) ได้กล้วยไม้สกุล Rhynchovanda
- ผสมกับสกุลกุหลาบ (Aerides) ได้กล้วยไม้สกุล Rhynchorides
- ผสมกับสกุลรีแนนเํธอรา (Renanthera) ได้กล้วยไม้สกุล Renanstylis
- ผสมกับสกุลฟาแลนนอปซิส (Phalaenopsis) ได้กล้วยไม้สกุล Rhynchonopsis
- ผสมกับสกุลม้าวิ่ง (Doritis) ได้กล้วยไม้สกุล Doristylis |