Home
ปัจจัยที่ทำให้กล้วยไม้เจริญเติบโต
กล้วยไม้สกุลกุหลาบ (Aerides)
กล้วยไม้สุกลแมงปอ (Arachnis)
กล้วยไม้สกุลเข็ม (Ascocentrum)
กล้วยไม้สกุลสิงโต (Bulbophyllum)
กล้วยไม้สกุลแคทลียา (Catteya)
กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium)
กล้วยไม้สกุลรองเท้านารี (Paphiopedilum)
กล้วยไม้สกุลช้าง (Rhynchostylis)
กล้วยไม้สกุลแวนด้า (Vanda)
กล้วยไม้สุกลฟาแลนนอปซิส (Phalaenopsis)
วิธีการให้ปุ๋ย
การเลือกภาชนะในกการปลูกกล้วยไม้
Contact
การเลือกภาชนะในกการปลูกกล้วยไม้
การเจริญเติบโตของกล้วยไม้มีความสัมพันธ์กับภาชนะและเครื่องปลูก ดังนั้นถ้าต้องการให้กล้วยไม้เจริญ งอกงามแล้วจึงต้องพิจารณาเรื่องของภาชนะและเครื่องปลูกให้เหมาะสมกับกล้วยไม้แต่ละชนิดด้วย ภาชนะที่ใช้ปลูกกล้วยไม้มีหลายประเภท ปัจจุบันนี้นักเลี้ยงกล้วยไม้จะเลือกใช้ภาชนะสำหรับปลูกกล้วยไม้ดังนี้
 
1. กระถางดินเผา ภาชนะประเภทนี้เหมาะสำหรับกล้วยไม้ประเภทรากกึ่งอากาศ เช่น แคทรียา หรือหวาย
เพราะว่ารากของกล้วยไม้ประเภทนี้แตกสาขาละเอียดกว่าพวกรากอากาศ เช่น แวนด้า และไม่จำเป็นต้อง แตกออกมารับแสงสว่างหรือลอย อยู่ในอากาศ แต่ทั้งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับว่ากระถางดินเผานั้นมีรู หรือมี ลักษณะโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวกมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถปลูกกล้วยไม้ประเภทรากอากาศได้ เช่นกัน
 

      2. กระถางพลาสติก การใช้งานของกระถางพลาสติกเหมือนกับกระถางดินเผา แต่มีข้อดีตรงที่มีน้ำหนักเบา ทนทาน และใช้งานได้ ยาวนานกว่ากระถางดินเผา ขนย้ายสะดวก แต่มีข้อเสียตรงที่กระถางพลาสติกจะเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยกว่า กระถางดินเผา จึงอาจต้องเสริมในเรื่องของเครื่องปลูกและการจัดการอื่นๆ ที่แตกต่างจากการใช้กระถางดินเผา
 

      3. กระเช้าไม้ กระเช้าไม้อาจทำจากไม้ระแนงหรือไม้สักก็ได้ ข้อดีของกระเช้าไม้คือมีลักษณะโปร่ง อากาศถ่ายเทดี จึงเหมาะสำหรับกล้วยไม้ประเภทรากอากาศแท้จริง เช่น แวนด้า ช้าง เป็นต้น
 

      4. ให้กล้วยไม้เกาะต้นไม้หรือติดคบไม้ วิธีนี้ควรเลือกต้นไม้ที่มีเปลือกไม้ไม่ลื่นหรือเป็นมัน และดูดความชื้นได้พอสมควร ซึ่งกล้วยไม้ที่ติดกับต้นไม้ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเหมือนในธรรมชาติแล้วก็จะทำให้กล้วยไม้ชนิดนั้นเจริญงอกงามได้เป็นอย่างดี

     สำหรับเครื่องปลูกที่นิยมใช้กันและหาได้ไม่ยากได้แก่
        1. กาบมะพร้าว กาบมะพร้าวที่จะนำมาเป็นเครื่องปลูกกล้วยไม้ต้องใช้กาบมะพร้าวที่แก่จัด ซึ่งข้อดีของกาบมะพร้าวคือ หาซื้อง่าย และราคาถูก แต่ข้อเสียคือเวลารดน้ำกาบมะพร้าวแห้งใหม่ๆ จะชุ่มน้ำได้ยาก จึงต้องรดน้ำค่อนข้างมากหน่อย ซึ่งต้องคอยสังเกตเครื่องปลูกให้ละเอียดขึ้นอีกนิดว่าชุ่มน้ำ และทั่วถึงจริงๆ
 
      2. เศษอิฐหรือกระถางแตก ได้แก่ อิฐมอญที่ทุบเป็นชิ้นเล็กๆ หรือเศษกระถางดินเผาที่ไม่ได้ใช้แล้วนำมาทุบเป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งข้อดีของเศษอิฐ เศษกระถางคือเก็บความชื้นได้ค่อนข้างนาน และมีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน แต่ข้อเสียคือมีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะสำหรับกล้วยไม้แบบแขวน
 
      3. ถ่านไม้ ถ่านจะมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับอิฐ คือช่วยดูดซับบความชื้น นอกจากนี้ยังช่วยดูดซับแก๊สที่เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของเครื่องปลูก โดยอาจใช้ถ่านผสมกับเศษอิฐ หรือจะใช้ถ่านอย่างเดียวก็ได้ รากกล้วยไม้ก็สามารถเจริญเติบโตได้ดีเช่นกัน
 
      4. มอส ข้อดีของมอสคือสามารถอมน้ำได้มาก และรักษาความชื้นไว้ได้นาน นักเลี้ยงกล้วยไม้ต้องคอยสังเกตดูมอสว่าแห้งหรือชื้นแฉะเกินไปหรือเปล่า ควรรดน้ำมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้ามอสชื้นแฉะอยู่นาน ก็จำทำให้รากกล้วยไม้เน่าได้ง่ายเช่นกัน
   
            ส่วนเครื่องปลูกอื่นๆ ที่ใช้กัน เช่น ออสมันดา (เฟิร์นชนิดหนึ่ง) ก็มีราคาแพง และหายาก เพราะต้องเก็บมาจากป่า หรือใช้กรวด หิน ก็ไม่สะดวกเพราะมีน้ำหนักมาก หรือจะใช้เศษไม้ เศษขี้เลื่อย ก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่ทั้งนี้การเลือกใช้วัสดุใดๆ มาเป็นเครื่องปลูกนั้น จะต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของเครื่องปลูกว่าเหมาะสมกับการปลูกกล้วยไม้ชนิดนั้นหรือไม่ เหมาะสมกับขนาดของกล้วยไม้นั้นหรือไม่ เหมาะสมกับสถานที่หรือโรงเรือนหรือไม่ และที่สำคัญเหมาะสมกับกำลังทรัพย์ที่จะจัดหามาใช้หรือไม่ ดังนั้นหลักเกณฑ์การเลือกใช้เครื่องปลูกพอจะสรุปได้ดังนี้
  1. มีความคงทน ไม่ผุเปื่อย หรือสลายตัวง่าย
2. สามารถเก็บความชื้นได้ดี แต่ไม่แฉะ
3. ไม่มีสิ่งที่เป็นพิษกับกล้วยไม้ เช่นมีสภาพเป็นกรดหรือด่างสูงเกินไป
4. ไม่มีเชื้อโรคหรือแมลงอาศัยอยู่ รวมถึงตะไคร่น้ำ
5. หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงเกินไป
6. เลือกใช้ชนิดของเครื่องปลูกให้เหมาะสมกับชนิดของกล้วยไม้และขนาดของกล้วยไม้
7. สะดวกต่อการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ในโรงเรือน
 

Today, there have been 16 visitors (19 hits) on this page!
Web by : Rungruthai This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free